
ลืมภาพหมู่บ้านคนชราสีแดงดำไปให้หมด เมื่อรอสโซเนรีเข้าสู่ยุคดาวรุ่งผงาด ลูกกรอกคะนอง
เล่นบาคาร่า มือถือ หากให้เอ่ยชื่อสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอิตาลี เชื่อเหลือเกินว่า ‘เอซี มิลาน’ คงเป็นคำตอบของใครหลายคน ตำแหน่งแชมป์กัลโช เซเรีย อา 18 สมัย, แชมป์โคปปา อิตาเลีย 5 สมัย และ แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก(ชื่อเก่าคือยูโรเปี้ยน คัพ) 7 สมัย เป็นรองเพียงแค่ เรอัล มาดริด คือหลักฐานยืนยันความยิ่งใหญ่ของพวกเขาได้เป็นอย่างดี
ฟุตบอลอันไร้เทียมทานของ อาร์ริโก้ ซาคคี ผู้ปฏิวัติวงการลูกหนังแดนมะกะโรนีด้วยการนำเกมเพรสซิงสูงมาใช้บดบี้คู่แข่ง
ทีมของ ฟาบิโอ คาเปลโล ที่พลิกโค่น บาร์เซโลนา ที่มีซูเปอร์สตาร์อย่าง โรนัลด์ คูมัน, ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ และ โรมาริโอ ขาดลอย 4-0 ในรอบชิงแชมป์สโมสรยุโรปปี 1994 ทั้งที่ถูกมองว่าเป็นรอง
จนถึงยุคของ คาร์โล อันเชล็อตติ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเขี้ยวเกมรับแน่นเกมรุกคม พ่วงดีกรีตำแหน่งจ้าวยุโรปอีก 2 สมัย
นี่คือภาพจำอันแสนหวานของปีศาจแดงดำที่ยังคงตราตรึงอยู่ในใจคอลูกหนังหลายคน และคงไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะก้าวเข้าสู่ยุคตกต่ำเหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
จุดหักเหที่เปลี่ยนมิลานจากมหาอำนาจลูกหนังของประเทศกลายเป็นเพียงทีมระดับกลางตาราง คงหนีไม่พ้นการที่ ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี ประธานสโมสรเจอพิษเศรษฐกิจเล่นงานจนขาดเงินทุนดึงผู้เล่นฝีเท้าดีเข้ามาเสริมทัพ
อีกปัจจัยคือโครงสร้างของสโมสรที่ยังไม่ดีพอ เช่น สนามที่ยังไม่มีเป็นของตัวเอง(ซาน ซีโร เช่าจากสภาเมือง) ทำให้รายได้ที่เข้ากระเป๋าไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย จึงต้องประหยัดเงินบริหารทีมเพื่อควบคุมงบดุลในบัญชีไม่ให้ติดลบเกินลิมิตที่กฎ’ไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์’ของยูฟ่ากำหนดไว้
ดังนั้นพวกเขาจึงหันมาเน้นคว้าผู้เล่นไร้ค่าตัวที่หมดสัญญากับต้นสังกัด หรือ ยืมตัวผู้เล่นจากสโมสรอื่นเข้ามาใช้งานแทน (นี่คือ 11 ตัวจริงของมิลานที่ไม่ต้องเสียเงินแม้แต่ยูโรเดียวในปี 2014) จนถูกแฟนบอลตั้งสมญานามล้อว่า ‘เอฟรี มิโลน(Afree Miloan)’ แน่นอนว่าศักยภาพของผู้เล่นเหล่านี้ยังเป็นรองแข้งระดับท็อปในตลาด เพราะส่วนใหญ่ล้วนเป็นผู้เล่นอายุเยอะและผ่านจุดสูงสุดในอาชีพมาแล้วแทบทั้งสิ้น
ผลงานของรอสโซเนรรีจึงออกมาย่ำแย่อย่างที่เห็น พวกเขาคว้าแชมป์ไม่ได้แม้แต่รายการเดียวนับตั้งแต่ชูถ้วยสคูเด็ตโต้เมื่อปี 2011 ซ้ำร้ายกว่านั้นคือพลาดโควต้าลุยบอลยุโรปตลอด 3 ฤดูกาลหลังสุด ทำได้เพียงจบอันดับ 8, 10 และ 7 ตามลำดับเท่านั้น
แม้ว่าผู้บริหารจะพยายามปรับเปลี่ยนตัวกุนซือเข้ามากอบกู้สถานการณ์ถึง 5 คน ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา แต่มันก็ไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น เมื่อผลงานของสโมสรแย่ ศรัทธาของแฟนบอลก็พลอยเหือดหาย เห็นได้จากจำนวนผู้ชมในแต่ละเกมที่ลดน้อยลง หลายคนคงคิดในใจว่า “หรือมิลานกำลังก้าวเท้าเข้าสู่ยุคมืด?”